ภูมิแพ้ ปรับตัวได้ทัน ไม่ต้องทนป่วย
ปัจจุบัน “ ภูมิแพ้ ” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและพบได้ในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ โรคนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพียงกลุ่มคนที่มีความเปราะบางทางสุขภาพเท่านั้น แต่สามารถเกิดได้กับทุกคนในสังคม อาการของโรคภูมิแพ้มักเริ่มต้นอย่างไม่รุนแรง เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ไอเรื้อรัง หรือมีผื่นคันบนผิวหนัง ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นอาการเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างถูกวิธี อาการเหล่านี้สามารถพัฒนาไปสู่โรคที่เรื้อรังและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว เช่น โรคหอบหืด โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือแม้แต่อาการภูมิแพ้ที่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต
สิ่งที่น่ากังวลคือ ผู้ป่วยจำนวนมากอาจไม่รู้ตัวว่าอาการที่เผชิญอยู่ในชีวิตประจำวันเกิดจากภูมิแพ้ และจึงเลือกที่จะ “ทน” กับอาการเหล่านั้นโดยไม่หาสาเหตุหรือแนวทางป้องกันที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจโรค และเรียนรู้วิธีการปรับตัวให้ทันจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะแม้โรคภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ก็สามารถควบคุมและลดความรุนแรงได้หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ภูมิแพ้ คืออะไร?
คือ ภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น โดยอาการภูมิแพ้นี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสัมผัสกับสสารซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ หรือเรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นละออง เชื้อราในอากาศ และเกสรดอกไม้ เป็นต้น เมื่อร่างกายเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้แล้ว ก็จะหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมา ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น คัน ไอ มีเสมหะ หายใจไม่สะดวก คัดจมูก และเป็นลมพิษ เป็นต้น โดยโรคภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุใหญ่คือจากกรรมพันธุ์และจากสภาพแวดล้อม
สารก่อภูมิแพ้มีอะไรบ้าง?
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนสุนัข ขนแมว เกสรหญ้า หรือเชื้อรา เป็นต้น
- สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ อาหารทะเล หรือแป้งสาลี เป็นต้น
โดยไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งพบบ่อยในบริเวณที่นอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้านวม หรือพรมภายในห้องนอน ตัวไรฝุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมภายในห้องนอน
ภูมิแพ้ในไทย น่ากังวลแค่ไหน?
จากสถิติของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย พบโรคภูมิแพ้ในเด็กไทยสูงถึงร้อยละ 38 และพบในผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 20 ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึง 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือ กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากสังคมชนบทเป็นสังคมเมือง คนในเมืองอยู่บ้านมาก ไม่ออกกำลังกายทำให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เด็กกินนมแม่น้อยลง รับประทานอาหารจานด่วนมากขึ้น ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน มลภาวะจากอุตสาหกรรม การจราจร และการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน การตกแต่งบ้านด้วยการปูพรม ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง และการติดเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้เชื้อไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดี
วิธีป้องกัน ภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควันรถยนต์ ควันบุหรี่ ควันธูป กลิ่นน้ำหอมแรงๆ สารเคมีต่างๆ เพื่อไม่ให้อาการภูมิแพ้กำเริบ
- ดูแลความสะอาดภายในบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการกักเก็บฝุ่น
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และทำให้อาการโรคภูมิแพ้ค่อยๆ ดีขึ้นด้วย
- ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็ได้อย่างนั้น” ถ้าเรากินแต่สิ่งที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน ผัก และผลไม้ ก็จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ ถือเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการซ่อมแซม ฟื้นฟู และปรับสมดุล ในช่วงเวลานอนพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นไม่ควรเข้านอนดึกจนเกินไป
- พบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อปรึกษาแพทย์ใช้ยาตามที่แพทย์วินิจฉัย และปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
แม้ว่าภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่หากละเลยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี ก็อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างไม่รู้ตัว
Happy Noz สูตรหอมม่วง ตัวช่วยที่คุณแม่วางใจ มีส่วนผสมจากน้ำมันหัวหอมแดงสายพันธุ์พิเศษ ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล และอาการภูมิแพ้ได้อย่างอ่อนโยน จากสารสกัดออแอนิก 100% ใช้งานง่าย พกพาสะดวก “แปะปุ๊บ โล่งปั๊บ”
ที่มาของข้อมูล
- แพทย์ แนะ วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ : https://www.thaihealth.or.th/%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%8c-%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%b0-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84/
- คนไทยป่วยโรคภูมิแพ้ เพิ่ม3-4เท่า : https://www.thaihealth.or.th/%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%89-%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b4/
- โรคภูมิแพ้อากาศ ดูแลตัวเองอย่างไรให้ไม่ “แพ้” : https://www.cgh.co.th/article-detail.php?item=325&utm_source=chatgpt.com
- ข้อแนะนำในการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ (Avoid Allergens) : https://www.nakornthon.com/article/detail/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89-avoid-allergens?utm_source=chatgpt.com
- 4 โรคภูมิแพ้ ที่คนไทยเป็นมากที่สุด : https://www.thaihealth.or.th/4-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%89-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87-2/
- โรคภูมิแพ้ เกิดจากอะไร…รักษาอย่างไรให้หาย? : https://bpk9internationalhospital.com/care_blog/content/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%20%20%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2