สารปนเปื้อนในน้ำ อันตรายต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในภูมิภาคเอเชียต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในวงกว้าง ทั้งในด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสภาพแวดล้อมโดยรวม แม้บางพื้นที่สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ผลกระทบด้านสุขภาพ สารปนเปื้อนในน้ำ โดยเฉพาะในระยะหลังน้ำลด ยังคงเป็นสิ่งที่ควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หนึ่งในความเสี่ยงสำคัญหลังน้ำท่วม คือ สารปนเปื้อนในน้ำและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจประกอบด้วยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส รวมถึงสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในน้ำขัง โคลน และฝุ่นละออง สารเหล่านี้สามารถฟุ้งกระจายขึ้นสู่อากาศหรือเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจและการสัมผัส ส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เช่น การทำความสะอาดบ้านเรือนหรือพื้นที่สาธารณะ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอาจสัมผัสกับเชื้อโรคจากสารปนเปื้อนในน้ำ อาการที่อาจพบได้จากการติดเชื้อทางเดินหายใจ ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก มีน้ำมูก รวมถึงอาการปวดศีรษะหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย หากพบอาการเหล่านี้ ควรดูแลตนเองอย่างเหมาะสม และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรขอคำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ การป้องกันตนเองในช่วงหลังน้ำท่วมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม สารปนเปื้อนในน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด สวมหน้ากากอนามัยขณะทำความสะอาด ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือหรือรองเท้าบูท และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังปฏิบัติงาน นอกจากนี้ การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ...

