ลูกป่วยแบบไหน? สังเกตอาการไข้หวัดใหญ่ VS โควิด-19 ง่าย ๆ ที่บ้าน
ในช่วงที่มีการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง ทั้งไข้หวัดใหญ่และ โควิด-19 ผู้ปกครองจำนวนมากอาจเกิดความกังวล เมื่อลูกน้อยมีอาการไข้ ไอ หรืออ่อนเพลีย ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้นที่พบได้ทั้งในไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถบอกเล่าความรู้สึกหรืออาการได้ชัดเจน
ในบทความนี้จึงอยากชวนผู้ปกครองมาสังเกตอาการเบื้องต้นของไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ในเด็ก พร้อมแนวทางการดูแลเบื้องต้นในบ้านอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการลุกลามของอาการและการแพร่กระจายเชื้อในครอบครัว
การสังเกตและแยกแยะอาการของโรคในเบื้องต้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก:
- แนวทางการรักษาแตกต่างกัน: โควิด-19และไข้หวัดใหญ่มีแนวทางการรักษาเฉพาะ
- ระยะการแพร่เชื้อไม่เหมือนกัน: โควิด-19มีระยะเวลาการแพร่เชื้อที่ยาวนานกว่า
- ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนไม่เท่ากัน: เด็กบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่
- วิธีการป้องกันโรคแตกต่างกัน: การดูแลสุขอนามัยและการแยกกักต้องปรับตามลักษณะของโรค
การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสในการเกิดภาวะรุนแรง
อาการของ โควิด-19 ในเด็ก
เด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 อาจแสดงอาการไม่รุนแรง หรือไม่แสดงอาการเลย อย่างไรก็ตาม อาจพบอาการคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ เช่น:
- มีไข้ (37.5°C ขึ้นไป)
- ไอแห้ง เจ็บคอ
- มีน้ำมูก คัดจมูก
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- สูญเสียการรับรสหรือกลิ่น (พบบ่อยในเด็กโต)
แนวทางการดูแลเบื้องต้นในกรณีติดเชื้อ โควิด-19
- แยกที่พักอาศัยจากสมาชิกในครอบครัว
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อใกล้ชิด
- ล้างมือบ่อย ๆ และดูแลสุขอนามัยพื้นฐาน
- วัดไข้และติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวัน
อาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
ไข้หวัดใหญ่ในเด็กมักแสดงอาการรวดเร็วและรุนแรงกว่าไข้หวัดทั่วไป โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่:
- ไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่า 38°C)
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หนาวสั่น
- ไอแห้ง หรือเจ็บหน้าอก
- เบื่ออาหาร งอแง ซึม หรืออ่อนแรง
- ปวดศีรษะ และหงุดหงิดง่าย
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียในบางราย
แนวทางการดูแลเบื้องต้นในกรณีเป็นไข้หวัดใหญ่
- ให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอ (อย่างน้อย 7–10 วัน)
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- ใช้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ตามคำแนะนำของแพทย์
- ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยา Oseltamivir ซึ่งมีประสิทธิภาพหากเริ่มใช้ภายใน 48 ชั่วโมงแรก
สัญญาณอันตรายที่ควรรีบพบแพทย์ทันที
หากพบอาการต่อไปนี้ ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์โดยด่วน:
🚨 อาการฉุกเฉิน:
- หายใจลำบาก หรือหอบเหนื่อยผิดปกติ
- แน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอก
- ริมฝีปากหรือนิ้วมือมีสีเขียวคล้ำ
- ซึม พูดจาไม่รู้เรื่อง
- ไข้สูงเกิน 3 วันต่อเนื่อง
⚠️ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ:
- เด็กที่มีโรคประจำตัวหรือภูมิคุ้มกันต่ำ
- หญิงตั้งครรภ์
- สมาชิกในครอบครัวที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
⚠️ข้อควรหลีกเลี่ยง:
- ห้ามใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ไอที่ออกฤทธิ์แรงในเด็กเล็ก
- งดออกกำลังกายหนักในช่วงที่มีอาการป่วย
นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถเสริมเกราะให้ลูกน้อยห่างไกลจากเชื้อไวรัสได้ทุกวันด้วย “สติ๊กเกอร์หัวหอม Happy Noz สูตรหอมเขียว” ที่มีส่วนผสมของน้ำมันขมิ้นชัน ผ่านการทดสอบจาก Virology Research Services ประเทศอังกฤษ ว่าสามารถ:
✅ ป้องกันเชื้อ Coronavirus NL63 ได้ 99.99% ภายใน 30 วินาที
✅ ป้องกันเชื้อ SARS-CoV-2 ได้ 99.99% ภายใน 60 วินาที
✅ ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และสายพันธุ์ B
📌 ตัวช่วยที่คุณแม่ไว้วางใจ อ่อนโยน ปลอดภัย ด้วยสารสกัดออแกนิค 100% ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 0 ปีขึ้นไป ใช้งานง่าย เพียงแค่แปะบนเสื้อผ้า กระเป๋า รถเข็นเด็ก ก็สามารถสูดกลิ่นหอมสดชื่นแบบเป็นธรรมชาติที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันได้ทั้งวัน
ที่มาของข้อมูล
- โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโควิด -19 อาการเหมือน ต่างกันอย่างไร : https://bangpo-hospital.com/dengue-flu-covid/
- โรค COVID-19 ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ ต่างกันอย่างไร : https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84-covid-19-%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3?
- เช็กอย่างไร…ไข้หวัดใหญ่หรือโควิด : https://www.krungthaihospital.com/influenza-vs-covid-19/