‘สติ๊กเกอร์ไล่ยุง –หัวหอม’ นวัตกรรมรักษ์ สวล. สายพันธุ์ไทย ทะยานสู่ตลาดโลก
“วันเวนเชอร์” เจ้าของสินค้านวัตกรรมรักษ์โลก “สติ๊กเกอร์ไล่ยุง (BUG GUARD) – สติ๊กเกอร์หัวหอมออร์แกนิค (Happy Noz)” รายแรกของไทยและของโลก คว้ารางวัลระดับประเทศและนานาชาติมากมาย พร้อมประกาศศักดาสินค้าไทยกวาดยอดขายไปแล้วทั่วโลกกว่า 200 ล้านชิ้น เผย! ปี 2566 ทำยอดขายทะลุ 220 ล้านบาท โดยปี 2567 ตั้งเป้าเติบโต 30% ระบุ! เฉพาะยอดขายผ่านร้านเซเว่นฯ เติบโตปีละกว่า 50% ด้าน EXIM BANK พร้อมหนุนผู้ประกอบการไทย สู่ Green Export Supply Chain หวังไม่ถูกกีดกันทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อม
เภสัชกรหญิงวันทณีย์ เสนาคุณ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเป็นผู้ผลิตสติ๊กเกอร์ไล่ยุงออร์แกนิครายแรกของประเทศไทย ภายใต้ชื่อแบรนด์ BUG GUARD และเป็นผู้ผลิตสติ๊กเกอร์หัวหอมออร์แกนิครายแรกของโลก แบรนด์ Happy Noz (แฮปปี้โนส) ซึ่งได้ทำการวิจัยและพัฒนาภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรไทยโดยทีมเภสัชกรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้ประยุกต์เข้ากับหลักเภสัชศาสตร์ของการแพทย์ปัจจุบัน และต่อยอดด้วยนวัตกรรมต่างๆ ทั้งการหมักบ่มสารสกัดออร์แกนิค 100% และการทักถอเส้นใยผ้าและชั้นการซึมซับพิเศษ ทำให้สมุนไพรสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยาวนานถึง 12 ชม.
“ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ โดยเฉพาะ Happy Noz เมื่อสูดดมแล้วจะรู้สึกหอมสดชื่น หายใจโล่งสบาย ช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูกโดยไม่ต้องพึ่งยา นอกจากสรรพคุณและความปลอดภัยแล้ว เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานที่ง่ายดาย ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงถูกออกแบบให้เป็นสติ๊กเกอร์แผ่นเล็กๆ ติดแน่น ลอกออกง่าย สามารถแปะได้ทั้งเสื้อผ้า หน้ากากอนามัย พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ” เภสัชกรหญิงวันทณีย์ กล่าว
ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนา Happy Noz ได้รางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Award ประเทศไทย และยังคว้า 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ในงานประกวดสินค้าและนวัตกรรมระดับนานาชาติถึง 2 ปีซ้อน จากเวที Invention and Innovation Contest Paris ปี 2022 และ International Invention abd Trade Expo LONDON ปี 2023 ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในปรัชญาที่บริษัทฯไม่เคยละทิ้ง โดยในปี 2567 นี้ บริษัทฯจึงได้รับรางวัลธรรมภิบาลด้านการปฏิบัติต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น จากธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันป๊วยอึ้งภากรณ์
“จากรางวัลการันตีทั้งด้านคุณภาพ นวัตกรรม ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบัน Happy Noz มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย 4 ปีซ้อน (ในกลุ่มสติ๊กเกอร์หัวหอม ปี 2020-2023;IQVIA” และส่งออกมากกว่า 33 ประเทศ โดยส่งมอบคุณค่าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 200 ล้านชิ้น” เภสัชกรหญิงวันทณีย์ ระบุ
สำหรับ “กุญแจแห่งความสำเร็จ” จนทำให้มียอดขายติดอันดับ 1 ในไทยและส่งออกไปยังทั่วโลกนั้น เภสัชกรหญิงวันทณีย์ กล่าวว่า มาจากปรัชญาการทำธุรกิจที่ต้องการส่งมอบความสุขที่เหนือความคาดหมายให้ลูกค้า ดังนั้น เราจึงไม่หยุดสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอีกหลายชนิด อาทิ สติ๊กเกอร์น้ำมันขิง, น้ำมันทีทรีออยล์, น้ำมันกานพลู, น้ำมันขมิ้นชัน, น้ำมันหัวหอมใหญ่สีแดงสายพันธุ์พิเศษ ฯลฯ รวมถึง สติ๊กเกอร์กระดังงา เป็นต้น
ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศ บริษัทฯได้เน้นการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ สติ๊กเกอร์หัวหอมออร์แกนิค (Happy Noz) จะเน้นสื่อสารไปยังกลุ่มคุณแม่ที่มีลูกเล็กและประสบปัญหาไข้หวัดและคัดจมูกเป็นหลัก ไม่ต่างจาก สติ๊กเกอร์ไล่ยุง (BUG GUARD)ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของบ้านทุกหลังในประเทศไทย และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เห็นจากยอดขายรวมในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศทั้งกว่า 1.4 หมื่นสาขา สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้มากถึงปีละประมาณ 50% และเป็นเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ยอดขายในต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดย สติ๊กเกอร์หัวหอมออร์แกนิค จะขายดีในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่วน ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชีย ที่ได้ขยายตลาดไปยัง ประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ตลาดก็ตอบรับด้วยดีเช่นกัน ทางด้าน ตลาดในกลุ่มประเทศตะวันตก โดยเฉพาะ ตลาดสหรัฐฯ จะเน้นการทำ ตลาดอีคอมเมิร์ช ผ่านเว็บไซต์ AMAZON เป็นหลัก ส่วน ตลาดฝั่งยุโรป มีฐานลูกค้าสำคัญในประเทศเยอรมัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวที่ได้ใช้สินค้าของเราในประเทศไทย จึงมีออร์เดอร์ไปจำหน่ายในประเทศตัวเอง ส่งผลให้ยอดขายในปีที่ 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำได้มากถึง 225 ล้านบาท และในปี 2567 นี้ บริษัทฯตั้งเป้าจะสร้างอัตราการเติบโตของยอดขายให้ได้ประมาณ 30% ของยอดขายในปีก่อนหน้านี้
สำหรับ บริษัท วันเวนเชอร์ จำกัด เป็น 1 ในไม่กี่บริษัทที่ได้รับเชิญจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (EXIM BANK) ให้ร่วมออกบูธระหว่างการแถลงข่าว Export Supply Chain Greenovation เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Green Export Supply Chain เมื่อช่วงสายวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการแถลงข่าวฯ ว่า EXIM BANK ได้พัฒนา Greenovation ที่มุ่งยกระดับสินค้าส่งออกของไทยเป็นสินค้ารักษ์โลกหรือ Green Products ควบคู่กับการสร้าง Green Export Supply Chain ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยมลภาวะ บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ และการขนส่งที่ใช้พลังงานสะอาด เป็นต้น
“ผู้ประกอบที่ EXIM BANK เชิญมาร่วมงานในวันนี้ ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่สำคัญ และผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปรับตัวเข้าสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปของกระแสโลกที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมในการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย และเชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการจะช่วยเพิ่มยอดส่งออกของไทยในปีนี้และปีต่อๆ ไป เพื่อให้กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหนึ่ง” กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ย้ำ.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://yutthasartonline.com/strategies/80381